หากใครกำลังวางแผนเที่ยวอังกฤษอยู่ แน่นอนว่า London จะต้องยู่ในใจของใครต่อหลายคนแน่นอน แต่ใครจะรู้ว่านอกจากลอนดอนแล้ว ยังมีที่เที่ยวในเมืองอื่นๆอีกมากมายซึ่งจะให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป รวมถึงสถานที่ที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกอีกด้วย
โดยวันนี้เราได้รวบรวมมาถึง 11 เมืองทั้งในอังกฤษ สก็อตแลนด์ และเวลส์ เพื่อให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของแต่ละเมืองอีกด้วย
บอกเลยว่าแต่ละสถานที่นั้นเรียกได้ว่าคุ้มค่าแก่การไปเยือนอย่างแน่นอน
York (ยอร์ค)
เมืองศูนย์กลางการพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่อยู่ในเขต Yorkshire แคว้นที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ของอังกฤษ โดยมีไฮไลท์สำคัญหลายอย่างเช่น York Minster โบสถ์โกธิคอายุกว่า 800 ปีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอังกฤษ, Betty Tea room ร้านน้ำชาเก่าแก่ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในร้าน Afternoon Tea ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ หรือจะเป็นกำแพงเมืองโบราณของยอร์ค
Newcastle (นิวคาสเซิล)
เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษบนริมฝั่งแม่น้ำไทน์ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง ในอดีตเคยมีชื่อเสียงเรื่องการค้าแกะและถ่านหิน และยังเป็นจุดเริ่มต้นของกำแพงประวัติศาสตร์ของอังกฤษ “แฮเดรียนวอลล์” และเป็นเมืองท่าศูนย์กลางการเดินเรือ
Edinburgh (เอดินเบอร์ก)
เมืองหลวงของสก็อตแลนด์ ที่ได้รับสมญานามว่า "เอเธนส์ของซีกโลกเหนือ" จะเห็นได้จากอารยธรรมและสถาปัตยกรรมต่างๆที่ยังคงไว้ในรูปแบบดั้งเดิมให้คนได้ชื่นชมถึงความอนุรักษ์นิยมของชาวสก็อตแลนด์
สถานที่สำคัญต่างๆจะเรียงรายบนถนนสายหลัก ชื่อว่า ถนนรอยัลไมล์ ที่เชื่อมต่อระหว่างปราสาทเอดินเบอร์ก และพระราชวังโฮลี่รู้ด พระราชวังเก่าแก่
Windermere (วินเดอร์เมียร์)
เมืองธรรมชาติสุดสวยริมทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ และเป็นบ้านเกิดของปีเตอร์แรบบิท กระต่ายน้อยในนิทานของเบียทริกซ์ พ็อตเตอร์ (Beatrix Potter) ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ
Manchester (แมนเชสเตอร์)
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นเมืองใหญ่และมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากลอนดอน เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองและเติบโตขึ้นจากโรงงานผลิตสิ่งทอในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้เองเมือง Manchester จึงกลายมาเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก
นอกจากอุตสาหกรรมแล้ว เมืองแมนเชสเตอร์ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงจากการกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล โดยมีสโมสรฟุตบอลชื่อดังอยู่ 2 สโมสร คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ซิตี (เรือใบสีฟ้า)
Stratford upon Avon (สแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอน)
เป็นเมืองค้าขายในเขต Warwickshire ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Avon เมืองนี้เป็นเมืองที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของนักเขียนบทละครและนักกวีชื่อดัง "William Shakespeare"
Cardiff (คาร์ดีฟ)
ออกนอกอังกฤษมาเล็กน้อยทางทิศตะวันตก จะเจอกับประเทศ Wales ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร มีเมืองหลวงที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและการท่องเที่ยวชื่อว่า Cardiff ความน่าสนใจของเมืองนี้คือเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นสถานที่โบราณ แต่กลับกันในอีกฝากหนึ่งของเมืองก็มีสิ่งก่อสร้างทันสมัย ทำให้ผู้คนที่นี่อยู่ร่วมกับความเก่าและเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปในเวลาเดียวกัน
Bath (บาธ)
เมืองเก่าแก่ที่ความสำคัญ และรุ่งเรืองตั้งแต่ยุคโรมัน เป็นสถานที่อาบน้ำของชาวโรมัน เนื่องจากเป็นเมืองแห่งน้ำพุร้อน
Oxford (อ๊อกซ์ฟอร์ด)
University of Oxford เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยภายในมหาวิทยาลัยก็จะประกอบไปด้วยวิทยาลัยที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยมากกว่า 30 แห่ง ซึ่งแต่ละวิทยาลัยก็จะมีความแตกต่างหลากหลายในเรื่องของสาขาวิชาและหลักสูตร ประกอบกับระบบการศึกษาที่มีความทันสมัยของที่นี่
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เหล่าบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกจำนวนมากเข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง
Amesbury (อาเมสเบอร์รี่)
1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ยุคกลางของโลก และเป็นอนุสาวรีย์ของยุโรปที่หลายคนรู้จักกันดี จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเที่ยวชมกันอยู่เสมอจนเต็มลิมิตการรับนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน
สโตนเฮนจ์ประกอบไปด้วยหินขนาดใหญ่ 112 ก้อน คาดว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อ 3,000 – 1,500 ปีก่อนคริสตกาล โดยที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าสร้างขึ้นเพื่ออะไร และใช้วิธีอะไรในการยกหินขึ้นไปเรียงต่อกัน และด้วยความพิศวงนี้เองที่ทำให้เกิดการดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้จำนวนมากในแต่ละปี
London (ลอนดอน)
หนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ และเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่า 2,000 ปีเลยทีเดียว