ดูบทความTromso เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ

Tromso เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ

หมวดหมู่: AMAZING Destinations

Hei hei Tromso! 

Hei Hei เป็นคำทักทายภาษานอร์เวย์มีความหมายเหมือนกับคำว่า Hello ของภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากได้ยินคนพื้นเมืองพูดกันว่า "เฮ เฮ" แสดงว่าเค้ากำลังทักทายกันอยู่นั่นเอง

เมืองทรอมโซ่ตั้งอยู่ 350 กิโลเมตรเหนือเส้น Arctic Circle โดยมีประชากรราว 75,000 คนอาศัยอยู่ จริงๆแล้วเมืองทรอมโซ่ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในเมืองแห่งแสงเหนือที่ดีที่สุด แต่ยังเป็นแหล่งดึงดูดนักศึกษาจากทั่วทุกมุมโลกที่หลงไหลในแสงเหนือและดวงดาว

เพราะทรอมโซ่เป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยที่อยู่เหนือสุดของโลกซึ่งโดดเด่นในเรื่องงานวิจัยแสงเหนือ ดาราศาสตร์ รวมไปถึงการประมงอย่าง The University of Tromso

นอกจากนี้ ทรอมโซ่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวซามี่ (Sami) ชาวพื้นเมืองเก่าแก่แห่งสแกนดิเนเวียเหมือนกับฟินแลนด์และรัสเซียที่ยังคงรักษาอารยธรรมแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมากว่า 5,000 ปี

การเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีก็ถึงภายในตัวเมืองแล้ว ประกอบกับเป็นเมืองที่จะเรียกว่าครึกครึ้นที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาเมืองแห่งการล่าแสงเหนือแห่งอื่น

สำหรับกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองทรอมโซ่ก็มีมากมายเช่น

Arctic Cathedral 

โบสถ์ที่รูปร่างหน้าตาไม่ค่อยจะเหมือนกับโบสถ์ทั่วไปซักเท่าไหร่เพราะการออกแบบหลักๆแล้วได้แรงบันดาลใจมากจากการผสมผสานระหว่างรูปทรงของ Icebergs หรือภูเขาน้ำแข็งและกระท่อมของชาวบ้าน โดยไฮไลท์ของโบสถ์แห่งนี้ไม่ใช่เพียงรูปทรงเท่านั้น แต่เป็นการใช้กระจกสีจำนวนหลายบานมาตกแต่งบริเวณด้านหน้าของโบสถ์ซึ่งเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ถ้าแสงแดดส่องผ่านกระจกเข้าไปในโบสถ์แล้วจะสวยมาก

Fjellheisen Viewpoint 

การนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นเขาไปจุดชมวิวของเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าวันไหนอากาศดีและหมอกไม่เยอะ เราจะสามารถเห็นเมืองทรอมโซ่ได้ทั้งเมืองแบบพาโนราม่าเลยโดยใช้เวลาในการนั่งเคเบิ้ลคาร์เพียง 4-5 นาทีก็ถึงยอดเขาแล้ว

Tromso Public Library 

ขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาแล้ว ห้องสมุดประจำเมืองคงต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน โดยห้องสมุดประจำเมืองนี้จะอยู่ติดกับถนนเส้นช้อปปิ้งซึ่งการตกแต่งภายนอกนั้นสวยงามแต่เรียบง่ายตามสไตล์ Norwegian

Tromso Cathedral 

โบสถ์เก่าแก่อายุ 100 กว่าปีที่ตั้งอยู่เงียบๆบริเวณถนนคนเดิน ความพิเศษของโบสถ์นี้คือเป็นโบสถ์ที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการสร้าง

Sami people & Reindeer 

กวางเรนเดียร์ที่นี่จะถูกเลี้ยงโดยชาวซามี่เท่านั้น เพราะสำหรับชาวซามี่บางคนแล้ว รายได้จากการขายอาหารกวางให้กับนักท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของเค้าเลย โดยเราสามารถซื้ออาหารกวางจากชาวซามี่ได้บริเวณรอบๆนั้น

กวางเรนเดียร์นั้นจะเรียกได้ว่าเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เรือนของชาวซามี่เลยก็ว่าได้เพราะในอดีต ชาวซามี่ใช้กวางเรนเดียร์ในการคมนาคม นอกจากนั้นยังใช้ขนของกวางมาทำเป็นเครื่องนุ่งห่มอีกด้วย และที่แน่นอนก็คือเนื้อของกวางเรนเดียร์ก็เป็นอาหารหลักของชาวซามี่ด้วยเช่นกัน

อย่างที่บอกว่าชาวซามี่นั้นมีอยู่หลายแห่งเช่น ฟินแลนด์ สวีเดน รัสเซีย แต่จะอยู่ในนอร์เวย์ซะส่วนใหญ่โดยภาษาที่ใช้ก็จะต่างกัน มีทั้งภาษานอร์เวย์และภาษาซามี่ซึ่งแตกแขนงออกไปมากมายขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ

*เกร็ดความรู้* ในทุกๆวัน เขาของกวางเรนเดียร์นั้นสามารถงอกได้ถึงวันละ 1 นิ้วเลยทีเดียว

12 พฤศจิกายน 2562

ผู้ชม 20573 ครั้ง